ศาลเจ้าพ่อผาด่าน อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน
เจ้าพ่อผาด่าน ตามตำนานเล่าขานว่าเจ้าผาด่าน มีนามเดิมว่า "ขันคำ"ได้ร่ำเรียนวิชาความรู้จาก สุพรหมฤาษี ซึ่งเป็นฤาษีที่มีฤทธฺ์ทานุภาพมากในขณะนั้น เจ้าพ่อผาด่านเป็นทหารเอกของ เจ้าแม่จามเทวี มีความสามารถในการใช้อาวุธทั้งหอกและดาบอย่างช่ำชองเป็นบุคคลที่มีความกล้าหารและซื่อสัตย์ จนได้รับการแต่งตั้งเป็นนายด่านรักษาเมือง คอยรายงานความเคลื่อนไหวของผู้คนและข้าศึก
ตามตำนานที่เล่าขานสืบกันมาจากผู้เฒ่าผู้ แก่ เล่าสืบกันมาหลายชั่วอายุคนกล่าวว่าเจ้าพ่อผาด่าน เป็นเจ้าพ่อสิงสถิตย์อยู่ที่ดอยผาด่าน ซึ่งดอยผาด่านมีลักษณะเป็นหน้าผาสูง ในช่วงเวลาอากาศแจ่มใสจะสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล แต่ถ้าหากขึ้นไปอยู่บนหน้าผา ซึ่งเป็นสถานที่ที่เจ้าพ่อผาด่านใช้เป็นที่สังเกตการณ์รบในสมัยนั้น จะสามารถมองเห็นได้ทั้งภายในจังหวัดลำพูน และเชียงใหม่ ซึ่งในจังหวัดลำพูนสามารถมองเห็นได้ เช่น นิคมอุตสาหกรรมและอำเภอป่าซาง ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ สามารถมองเห็นได้ เช่น อำเภอเมืองสันกำแพง สันทราย พระธาตุดอยสุเทพ ตำหนักภูพิงค์ฯ หางดง สันป่าตองและดอยอินทนนท์ ตั้งแต่สมัยโบราณในวันพญาวันหรือ ตรงกับวันที่ ๑๕ ของเดือนเมษายนของทุกปีจะมีการอัญเชิญเจ้าพ่อผาด่านให้เสด็จลงมา เพื่อประทับทรง พบปะพูดคุยกับบรรดาลูกหลาน ชาวบ้านที่มีความเคารพนับถือ และเลื่อมใสในตัวเจ้าพ่อผาด่าน
ตำนานเจ้าพ่อผาด่านมีมานานแล้ว และเล่าสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนแต่ไม่ได้มีการบันทึกไว้เป็น ลายลักษณ์อักษรแต่ในปีพ.ศ. ๒๕๔๐ นายสุเทพ ปัญญากาศ (ปัจจุบันเป็นกำนันตำบลทากาศ)ได้แนะนำและชักชวนคณะกรรมการ ให้เดินทางไปที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อไปปรึกษากับครูบาเทืองนาถสีโล แห่งวัดบ้านเด่น ซึ่งครูบาเทืองท่านนี้เป็นครูบาที่มีบุญบารมีมากทางคณะกรรมการ ได้เดินทาง ไปวัดบ้านเด่นเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๐ ตรงกับวันอาทิตย์ แต่ทางครูบาเทืองได้นัดให้ไปหาท่านอีกครั้งหนึ่ง คือต้องหลังวันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ และในวันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๐ ทางคณะกรรมการได้เดินทางไปที่วัดบ้านเด่นอีกครั้ง เพื่อพบกับครูบาเทือง นาถสีโลครูบาเทืองซึ่งท่านได้นั่ง สมาธิและก็ได้เล่าให้คณะกรรมการฟังเพื่อเป็นพื้นฐานในการค้นคว้าซึ่งคณะกรรมการก็ได้ทำการค้นคว้า ประวัติเจ้าพ่อผาด่านได้ดังต่อไปนี้
เจ้าพ่อผาด่าน เป็นพระอุปราชของพระเจ้ามหันตยศ เจ้าเมืองหริภุญชัย (ลำพูน) ในราวปี พ.ศ. ๑๒๒๔และพระเจ้าอนันตยศผู้ปกครองเมืองเขลางค์นคร (ลำปาง) ในราว พ.ศ. ๑๒๔๓ สำหรับพระเจ้ามหันตยศและพระเจ้าอนันตยศนั้นเป็นพระราชโอรสแฝดของพระนางเจ้าจามเทวี เจ้าพ่อผาด่านมีนามเดิมว่า "ขันคำ" มีหน้าที่เฝ้าหน้าด่านระหว่างเมือง ๒ เมือง(เมืองหริภุชัย และเมืองเขลางค์นคร) ที่ดอยผาด่านในปัจจุบัน เจ้าพ่อผาด่านได้ร่ำเรียนวิชาความรู้จาก "สุพรหมฤาษี" ซึ่งเป็นฤาษีแห่งดอยผางาม จังหวัดลำปางเจ้าพ่อผา ด่านเป็นบุคคลที่มีความกล้าหารและซื่อสัตย์เป็นอย่างยิ่งมีความสามารถในการใช้อาวุธทั้งหอกและดาบเป็นอย่างดี ทำหน้าที่นายด่านอยู่ราวปี พ.ศ. ๑๒๖๐
ในการสร้าง รูปจำลองเจ้าพ่อผาด่าน ได้นำเอาดินจากสถานที่ศักดิ์ ๗ แห่งคือวัดพระคงฤาษี วัดมหาวัน วัดประตูลี้ วัดพระธาตุหริภุญชัย ทั้ง ๔ แห่งในจังหวัดลำพูน และอีก ๓ แห่ง คือ วัดปงยางคก วัดพระแก้วดอนเต้า วัดพระธาตุลำปางหลวง จังหวัดลำปาง มาบรรจุไว้ที่ฐานของรูปจำลองเจ้าพ่อผาด่านด้วย
ทุกวันที่ ๒๘ เมษายน ของทุกปี จะมีการจัดพิธีบวงสรวงโดยการจัดงานประเพณีสรงน้ำพระพุทธรูป และรูปจำลองเจ้าพ่อผาด่าน โดยมีผู้มาร่วมพิธีกันอย่างเนืองแน่นทุกปี
ดอยผาด่าน ด้านล่างดอยผาด่านเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อผาด่านซึ่งเป็นที่เคารพสักการะบูชา
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
กระผมได้เข้ามาอ่านแล้วมีความรู้ดีน่ะคร้าบ
ตอบลบ*เนื้อหาสาระดีมากเลยครับสนุกด้วยได้ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติบุคคลสำคัญ
ตอบลบขอบคุณมากคับที่ให้ความรู้กับผมที่เป็นเด็กลำพูนรุ่นใหม่
ตอบลบขอบคุณมากครับที่ยังมีคนสนใจประวัติศาสตร์ล้านนาอยู่
ตอบลบรู้สึกดีนะครับที่ท่าน "ขันคำ" ได้มีตำนานให้คนรุ่นหลัง
ตอบลบได้มีไว้ศึกษาต่อไปจนถึงลูกหลาน
แล้วยังมีที่ให้ลูกหลานได้กราบไหว้บูชาอีกด้วย
ภาพดอยผ่าด่าน คือผาด่านจ.แพร่
ตอบลบที่มาของนามสกุล ขันคำ มาจากที่นีหรือป่าว
ตอบลบใครเอาดาบเจ้าพ่อไปเอามาคืนตวย
ตอบลบขอบคุณครับได้ความรู้เพิ่มเติม
ตอบลบทหารเอกเจ้าแม่จามเทวีมีกี่คน มีใครบ้างค่ะ
ตอบลบขอบคุณสำหรับความรุ้ที่ให้ครับ
ตอบลบ